กลับ
เค้ก Muffin มัฟฟิน

มัฟฟิน (Muffin) มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Moufflet เป็นขนมที่มีความเป็นมาเนิ่นนานตั้งแต่ ศตวรรษที่ 10 และ 11 ในแคว้นเวลส์ ประเทศอังกฤษ เป็นอาหารของทาสในสังคมอังกฤษยุควิกตอเรียน ซึ่งได้นําเศษขนมปัง แป้งบิสกิตที่เหลือและมันฝรั่งมาบดรวมกัน นวดจนเป็นแป้ง จากนั้น นําไปปิ้งให้สุกในกระทะก้นแบน กลิ่นหอมของขนมเย้ายวนใจ เจ้านายที่อยู่ชั้นบน จนในที่สุดขนมนี้จึงได้กลายเป็นขนมที่คนอังกฤษ รับประทานกับน้ำชาทุกบ่าย

ในศตวรรษที่ 19 ความนิยมรับประทานมัฟฟิน (Muffin) มีมากถึงขนาด มี “มัฟฟินแมน” (เป็นชาวไอริช หรือผู้อพยพเข้าเมือง) เดินสั่นกระดิ่ง เร่ขายมัฟฟิน (Muffin) ตามถนน ในช่วงเวลาน้ำชามากมายจนทําให้เกิดเสียงดัง ไปทั่ว และมัฟฟินแมนก็ไปปรากฏในเพลงกล่อมเด็กสุดคลาสสิคของ ชาวอังกฤษที่มีเนื้อร้องว่า “Do you know Muffin Man That lives on Drury Lane” จึงเป็นข้อสันนิษฐานที่น่าเชื่อถือว่า มัฟฟิน (Muffin) เป็นของว่างยอดนิยมที่ผู้คนมักจะซื้อไว้รับประทานเป็นของว่างก่อนเข้า หรือออกจากโรงละครในย่าน Drury Lane ของลอนดอน เมื่อถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มัฟฟิน (Muffin) ก็กลายเป็นขนมยอดนิยมสูงสุด ในเกาะอังกฤษจากถิ่นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ มัฟฟินได้ถูกนําไปเผยแพร่ ในประเทศอเมริกา โดยแนะนําว่าเป็น “โดนัทรูปแบบที่แตกต่าง” ในช่วงทศวรรษ 1960 มัฟฟินอังกฤษก็ได้ถูกพัฒนาเป็นมัฟฟินอเมริกัน ร้านขนมกาแฟต่างๆ ได้สร้างสรรค์โดยการสอดไส้ต่างๆ ออกขายจากสูตรเดิมที่มีส่วนผสมเป็นธัญพืช ถั่ว หรือผลไม้แห้งง่ายๆ จากกระทะธรรมดา กลายเป็น non stick pan (กระทะที่เคลือบสารป้องกันไม่ให้ ติดกระทะ) ซึ่งสามารถทําขนมได้หลากหลายรูปแบบ ถึงแม้ว่ามัฟฟินจะมีถิ่น กําเนิดมาจากประเทศอังกฤษ แต่กลับแพร่หลายและเป็นที่นิยมรับประทาน ในประเทศอเมริกามากกว่า เป็นสัญลักษณ์ของคนอเมริกา มี 3 รัฐใน อเมริกาที่มีมัฟฟินเป็นสัญลักษณ์ของตัวเอง อย่างรัฐมินนิโซตา มีบลูเบอรี่ มัฟฟินเป็นขนมประจํารัฐ รัฐแมสซาชูเซตส์มีมัฟฟินข้าวโพด เป็นขนม ประจํารัฐและนิวยอร์กถือว่า มัฟฟินแอปเปิ้ลเป็นของหวานประจํารัฐ

ความแตกต่างระหว่างมัฟฟินอังกฤษ และมัฟฟินอเมริกา มัฟฟิน อังกฤษเป็นขนมปังหมักยีสต์ รูปร่างกลมกว้างประมาณ 3 นิ้ว หนาประมาณ 1 นิ้ว ทําให้สุกโดยการนําไปปิ้งในกระทะ ส่วนมัฟฟินอเมริกาเป็น “Quick Bread” คือขนมปังที่ใช้เวลาทําไม่นาน และมีวิธีการไม่ยุ่งยาก อบในพิมพ์คล้ายคัพเค้ก ในเนื้อมัฟฟินมีส่วนผสมของผลไม้ หรือช็อกโกแลต นอกจากนั้นยังตกแต่งหน้าตาให้สวยงาม รับประทานได้โดยที่ไม่ต้องทาเนย หรือแยม ในปัจจุบันมัฟฟินที่เราคุ้นเคยกันดีคือ แบบอเมริกา มัฟฟิน ยังคงได้รับความนิยมอยู่ อีกทั้งยังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม “อาฟเตอร์นูน ที” ที่ร้านชากาแฟทั่วโลกมีขาย ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งในเมืองไทยซึ่งมีมัฟฟินให้เลือกรับประทานมากมายหลายชนิด ทําให้ความอร่อยของมัฟฟินไม่มีที่สิ้นสุด เคล็ดลับความอร่อยของการรับประทานมัฟฟิน คืออุ่นให้ร้อนก่อนรับประทานกับเครื่องดื่มแก้วโปรด ไม่ว่าจะเป็นชา หรือกาแฟ อิ่มอร่อยได้ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าหรือยามบ่าย

สูตรมัฟฟิน (Muffin) จากเข้าครัวกับยูเอฟเอ็ม

 

 

 

กูรูเอฟ

ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้านอาหาร รู้ลึก รู้จริง พร้อมตอบทุกคำถาม