แป้งเค้กคืออะไร? ทำไมถึงต้องเลือกใช้แป้งเค้ก

เค้กเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีหลายรูปแบบให้เลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นเค้กวันเกิด เค้กแต่งงาน เค้กผลไม้ เค้กช็อคโกแลต เป็นต้น สิ่งสำคัญที่ทำให้เค้กมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีคือแป้งที่ใช้ในการทำเค้ก โดยทั่วไปแล้วสาวกนักอบเค้กจะเลือกใช้ “แป้งเค้ก”

แป้งเค้ก (Cake Flour) เป็นแป้งสาลีชนิดเบา (Soft Wheat Flour) มีปริมาณโปรตีนต่ำ ประมาณ 7-9% ทำให้เนื้อแป้งมีสีขาวละเอียด นุ่ม เบา ฟู ดูดซึมน้ำได้ดี เหมาะกับการทำขนมเค้กที่มีน้ำตาลในสูตรสูง หรือใช้ไขมันในปริมาณมาก เช่น บัตเตอร์เค้ก ชิฟฟอนเค้ก สปันจ์เค้ก เป็นต้น โดยแป้งเค้กที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างเช่นแป้งสาลีตราพัดโบก (แป้งเค้กตราพัดโบก) ของ UFM

หากพูดถึงแป้งเค้กแล้ว การกำหนดเนื้อสัมผัสของเค้กจะขึ้นอยู่กับปริมาณกลูเตน (Gluten) ในแป้งเค้กที่เกิดขึ้นระหว่างการผสมแป้งกับน้ำ กลูเตนเป็นโปรตีนที่มีความเหนียวยืดหยุ่น เมื่อแป้งเค้กมีปริมาณโปรตีนต่ำ กลูเตนที่จะเกิดขึ้นก็จะน้อยตามไปด้วย ทำให้เนื้อแป้งมีความนุ่ม เบา ฟู และไม่เหนียว ซึ่งเหมาะกับการทำขนมเค้กที่มีน้ำตาลในสูตรสูง หรือใช้ไขมันในปริมาณมาก น้ำตาลและไขมันในสูตรขนมเค้กจะทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็กจำนวนมากในระหว่างการตีส่วนผสม ฟองอากาศเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้ขนมเค้กมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ฟู จึงจำเป็นต้องใช้แป้งเค้กที่มีปริมาณโปรตีนต่ำ เพื่อให้เนื้อแป้งสามารถดูดซึมน้ำได้ดีและเกิดฟองอากาศได้มากพอ

ข้อควรระวังในการเลือกใช้แป้งเค้ก ควรเลือกใช้แป้งเค้กตามสูตรของขนมเค้กที่ต้องการทำ ขนมเค้กแต่ละชนิดมีสูตรและส่วนผสมที่แตกต่างกัน การใช้แป้งเค้กที่ปริมาณโปรตีนไม่เหมาะสมอาจทำให้ขนมเค้กมีเนื้อสัมผัสที่ไม่ตรงกับที่ต้องการได้

ควรเก็บแป้งเค้กไว้ในที่แห้งและเย็น เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีแสงแดดส่องถึง เพราะอาจทำให้แป้งเค้กเสียรสชาติและคุณสมบัติได้

สรุปแล้ว แป้งเค้กเป็นแป้งที่มีความสำคัญในการทำขนมเค้ก เพราะเป็นตัวกำหนดเนื้อสัมผัสและรสชาติของขนมเค้ก การเลือกแป้งเค้กให้เหมาะสมกับสูตรและส่วนผสมของขนมเค้กที่ต้องการทำจะช่วยให้ขนมเค้กมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ดี