เค้กเป็นขนมหวานชนิดหนึ่งที่ทำมาจากแป้ง น้ำตาล ไข่ และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น เนย นม ผัก และผลไม้ เค้กมีหลากหลายชนิด แตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้และวิธีการทำ เค้กบางชนิดมีรสหวาน บางชนิดมีรสเปรี้ยว บางชนิดมีเนื้อแห้ง บางชนิดมีเนื้อนุ่ม เค้กมักถูกรับประทานเป็นของหวานหรือขนมว่าง และนิยมใช้ในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น วันเกิด วันแต่งงาน งานสังสรรค์ เป็นต้น

ประวัติความเป็นมาของเค้ก
เค้กมีต้นกำเนิดมาจากโลกตะวันตก เชื่อกันว่าเค้กสูตรแรกของโลกทำขึ้นโดยชาวสุเมเรียน ในประเทศอิรักโบราณ ประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล เค้กในสมัยนั้นทำจากแป้งสาลี น้ำผึ้ง และผลไม้ ชาวอียิปต์โบราณก็นิยมทำเค้กเช่นกัน โดยเค้กของพวกเขาทำจากข้าวสาลี น้ำผึ้ง นม และน้ำมันมะกอก ในช่วงยุคกลาง เค้กได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป เค้กในสมัยนั้นทำจากแป้งสาลี ไข่ น้ำตาล และนม เค้กในยุคกลางมักมีรสหวานจัดและมักมีส่วนผสมของผลไม้แห้งหรือถั่ว ในช่วงศตวรรษที่ 18 มีการค้นพบผงฟูและเบกกิ้งโซดา ส่งผลให้เค้กมีเนื้อนุ่มขึ้นและขึ้นฟูได้ง่ายขึ้น เค้กจึงได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก ในปัจจุบัน เค้กมีหลากหลายชนิด แตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้และวิธีการทำ เค้กบางชนิดที่ได้รับความนิยม เช่น เค้กเนย เค้กช็อคโกแลต เค้กผลไม้ เค้กชีส เค้กกาแฟ เป็นต้น

ประโยชน์ของเค้ก
เค้กเป็นขนมหวานที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย แต่ควรรับประทานเค้กในปริมาณที่เหมาะสม เพราะน้ำตาลในเค้กอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หากรับประทานมากเกินไป
นอกจากน้ำตาลแล้ว เค้กยังมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น แป้ง ไข่ เนย นม เป็นต้น แป้งเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน ไข่เป็นแหล่งโปรตีน เนยเป็นแหล่งไขมัน และนมเป็นแหล่งแคลเซียม

วิธีการทำเค้กโดยทั่วไปมีดังนี้
-เตรียมส่วนผสมต่างๆ
-ตีส่วนผสมต่างๆให้เข้ากัน
-เทส่วนผสมลงในพิมพ์
-อบเค้กในเตาอบ
-ปล่อยให้เค้กเย็นลง

เคล็ดลับในการทำเค้ก
-ควรใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี
-ควรตีส่วนผสมต่างๆให้เข้ากันดี
-ควรอบเค้กในเตาอบที่อุณหภูมิที่เหมาะสม
-ควรปล่อยให้เค้กเย็นลงก่อนรับประทาน
เค้กเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เค้กมีหลากหลายชนิด แตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้และวิธีการทำ สามารถรับประทานได้ทุกโอกาส