แป้งสาลีกับเค้กส้มในตำนาน โดย แม่สลิ่ม
- หมวด แชร์เทคนิคการทำอาหาร
Highlight
- ที่มาของเค้กส้มในตำนานคืออะไร
- ส่วนผสมหลักของเค้กส้ม
- ขั้นตอนในการทำเค้กส้ม พร้อมเทคนิค
- ขั้นตอนการทำซอสส้ม
- ขั้นตอนการตกแต่งเค้กส้ม
- การประกอบร่างเค้กส้มให้สวยงาม
หลายคนที่ทำเค้กใหม่ ๆ อาจเริ่มต้นจากเค้กหน้านิ่มทั้งหลาย เช่น เค้กส้ม เค้กช็อกโกแลต เค้กชาไทย เค้กชาเขียว ซึ่งส่วนผสมในการทำหาง่าย และกินได้ทุกวัย โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่หลายคนที่ปฏิเสธเค้กแบบครีม เค้กส้มในตำนานมีรสชาติหวานเปรี้ยว กินแล้วสดชื่น จึงเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน
ที่มาของเค้กส้มในตำนานคืออะไร
ที่มาของเค้กส้มในตำนาน ราว 15-16 ปีก่อน ผู้เขียนมีจุดเริ่มต้นจากเว็บไซต์พันทิปในสังคมทำอาหารและขนม ในแต่ละวันจะมีการโพสต์กระทู้สนทนาเรื่องอาหารและขนมที่ตัวเองทำ มีการตอบโต้สนทนากันในกระทู้ ในยุคนั้นสนุกสนานกับการเข้ามานั่งอ่านกระทู้ของเพื่อนสมาชิก ได้มิตรภาพ ได้ความรู้ หลายคนได้หัดทำขนมจากที่นั่น รวมถึงเค้กส้มในตำนานนี้ด้วย เค้กส้มในตำนานเกิดจากการรวมสูตรของเนื้อเค้กแบบ Sponge cake ที่ใส่สารเสริม คุณแหม่ม เทียร่า เป็นคนนำมาเผยแพร่ ส่วนหน้าเค้กนั้นน้องจอย จูนู ได้นำมาเผยแพร่ และมีคนทำตามกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่มีการปรับเปลี่ยนสูตรกันไปบ้างเพื่อให้ได้ในแบบที่ชอบ จนบางคนไม่รู้ที่มาที่ไปของเค้กส้มในตำนานเลยก็มี
เค้กส้มในตำนานในยุคนั้น เนื้อเค้กมีความนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้ง เป็นเค้กที่มีการเอาอิมัลซิไฟเออร์มาใส่ในขั้นตอนการตีเค้ก เป็นความแปลกใหม่สำหรับคนในยุคนั้นมาก แรก ๆ ที่ทำจับหลักไม่ได้เลย ดีบ้าง เสียบ้าง เพราะทำตามสูตรและขั้นตอนที่มีในมือ แต่ยังคิดวิเคราะห์ไม่ได้ ต้องตีไข่กับน้ำตาลแค่ไหน ผลจึงออกมาดีที่สุด เนยละลายต้องร้อนแค่ไหนถึงจะเพียงพอในการใส่เค้ก
ส่วนผสมหลักของเค้กส้ม
ส่วนผสมของเนื้อเค้กส้มในตำนานก็เป็นพื้นฐานทั่วไปในการทำขนมเค้กเลยค่ะ แป้งเค้ก ผงฟู ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นม น้ำ และกลิ่นส้มออยล์ แต่ที่มีความเฉพาะคือมีสารอิมัลซิไฟเออร์เข้ามา เพื่อช่วยให้เนื้อเค้กที่ได้ออกมา ฟู เบา เก็บกักความชุ่มชื้นไว้ได้มาก และทำให้ไข่กับไขมันเนยเข้ากันดี สารอิมัลซิไฟเออร์มีชื่อว่า “ยูเอฟเอ็ม เอสพี” (UFM SP) ซึ่งแต่ก่อนหน้านั้นผู้เขียนไม่ได้รู้จักเอสพี มาก่อนเลย เค้กส้มในตำนานนับเป็นการเปิดโลกของขนมเค้กในแบบที่ใส่สารเสริมเลยค่ะ
สำหรับผู้เขียน ก่อนทำเค้กสูตรที่มีอยู่ในมือ จะอ่านก่อนทำประมาณ 3 รอบ เพื่อคิด วิเคราะห์ แยกแยะว่าเป็นเค้กประเภทใด การแยกประเภทของเค้กได้ถูกต้องจะนำมาซึ่งการใช้เทคนิคให้เข้ากับการทำเค้กชนิดนั้น ๆ เพื่อให้ได้ผลที่ดี
ขั้นตอนในการทำเค้กส้ม
เค้กส้มในตำนานเป็นการทำเค้กในแบบ Sponge Cake แบบใส่สารเสริมยูเอฟเอ็ม เอสพี เริ่มต้นด้วยการชั่งของให้ครบ การเตรียมพิมพ์จะใช้วิธีปูกระดาษไขที่ก้นพิมพ์ หรือทาเนยที่ก้นและรอบพิมพ์ จากนั้นร่อนแป้งเค้กบาง ๆ แล้วเทแป้งส่วนเกินออกก็ได้เช่นกัน เลือกวิธีที่สะดวกได้เลยค่ะ แล้วเทไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำ นม และสารเสริมเอสพี ใส่ลงไปในโถผสม เอสพีจะมีลักษณะคล้ายเจลใส ๆ ให้ใช้หัวตีตะกร้อแกว่ง ๆ คน ๆ ให้เอสพีกระจายตัว การทำให้เอสพีกระจายตัวจะทำให้ได้ผลที่ดีมาก ผู้เขียนเคยลองไม่ทำให้เอสพีกระจายตัว เคยได้รับความเสียหายหลายครั้ง คือ เอสพีจะไปกระจุกที่ก้นโถผสม ทำให้ตีไข่ไม่ขึ้นฟู และเค้กจะเตี้ย ๆ แน่น ๆ
จากนั้นเริ่มต้นตีส่วนผสมด้วยความเร็วสูงจนได้ไข่ที่ขึ้นฟูมาก ลักษณะเป็นครีมข้นแต่ไหลตัวได้ ระยะเวลาขึ้นกับความแรงของเครื่องตีไข่ที่ใช้ด้วยค่ะ เมื่อได้ไข่ที่ข้นฟูเป็นครีมดีแล้ว ให้ลดความเร็วของเครื่องเป็นความเร็วกลางเพื่อให้ไข่เก็บรักษาฟองอากาศไว้ในตัวมากที่สุดและได้โครงสร้างไข่ที่แข็งแรงมากพอ จึงใส่แป้งและผงฟูที่เตรียมไว้ลงไป จะร่อนหรือไม่ร่อนผลที่ได้ไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากใช้แป้งที่เก่าเก็บก็ร่อนสักรอบก็จะเป็นการดีค่ะ แป้งเค้กที่มีคุณภาพที่ดีจะทำให้ขนมฟู เบา ทำได้ดีเค้กนี้จะละลายในปากเลยทีเดียว ตอนใส่แป้งเค้กตราพัดโบกและผงฟูลงไป ถ้าตีไข่ได้ที่ดีแป้งและผงฟูจะลอยอยู่บนโฟมไข่ ไม่จมลงไปพรวด ๆ หากแป้งและผงฟูจมในทันทีทันใดแสดงว่าตีไข่ไม่ได้ที่ การแก้ไขจะยากมาก หรือแก้ไขไม่ได้เลย เค้กที่อบได้มาจะเตี้ยค่ะ
จากนั้นจับเวลาตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที เพื่อให้ของแห้งเข้ากับส่วนของไข่ที่ตีไว้ เมื่อครบเวลาให้ปรับเครื่องตีเป็นความเร็วกลาง จับเวลาตีประมาณ 4-5 นาที เพื่อให้แป้งดูดซึมส่วนของไข่ที่ตีไว้เข้าในตัวเอง ปริมาตรของเค้กจะลดลงบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนผสมจะเหลวขึ้น แต่ยังคงข้นมากกว่านมข้นหวานและเนื้อเนียน
หากว่ามีฟองอากาศใหญ่ ๆ มากและส่วนผสมเหลวมากไป แสดงว่าใช้ความเร็วในการตีสูงไป เมื่อครบเวลาแล้วให้ใส่เนยละลาย ไม่ควรละลายรอไว้ แนะนำให้นำเข้าไมโครเวฟตอนที่จะใช้งาน เนยต้องอุ่นไปทางร้อน คือดูจากหน้ากระจกไมโครเวฟต้องมีการเดือดสักสองสามปุด ย้ำว่าอุ่นไปทางร้อน ไม่ใช่อุ่นไปทางเย็น เพราะหากเนยละลายเย็นไปจะทำให้แทรกซึมเข้าส่วนผสมที่ตีได้ยาก เป็นเหตุให้เค้กเป็นไตได้ การใส่เนยไม่แนะนำให้รินเป็นสายลงไปเรื่อย ๆ แนะนำให้แบ่งเนยใส่เป็นประมาณ 3-4 รอบ จะให้ผลที่ดี
ในขณะที่ใส่เนยตีด้วยความเร็วต่ำช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ต้องใช้ระยะเวลาสั้น จากนั้นหยุดปาดรอบ ๆ โถผสม และคนให้ถึงก้นโถผสม ที่ให้ทำแบบนี้เพราะเนยหนักกว่าไข่ เนยจะชอบจมไปด้านล่างโถ หากคนไม่ถึงจะทำให้เนยกับไข่ไม่เข้ากันดี เป็นเหตุหนึ่งให้เค้กเป็นไตได้เช่นกัน ใส่เนยละลายจนหมดตามวิธีที่บอก
จากนั้นตีด้วยความเร็วต่ำ 1-2 นาที เพื่อนำฟองอากาศออก แล้วจึงนำส่วนผสมเทใส่พิมพ์และนำเข้าอบจนเค้กสุก เมื่อเค้กสุกนำออกจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นจนกว่าจะราดหน้าเค้ก
ในการใส่กลิ่นเพื่อช่วยเพิ่มความหอม สำหรับเค้กส้มกลิ่นที่ผู้เขียนแนะนำให้ใส่คือกลิ่นส้มออยล์ จะเป็นลักษณะเหมือนกลิ่นน้ำมันจากผิวส้ม มีความหอมเฉพาะตัว แต่หากจะใส่กลิ่นวานิลลาแทนก็ได้เช่นกันหากหากลิ่นส้มออยล์ไม่ได้ ขั้นตอนการใส่กลิ่นแนะนำให้ใส่ไปพร้อมกับเนยในช่วงท้ายของการตีเค้ก ไม่แนะนำให้ใส่ไปพร้อมกับส่วนผสมของไข่ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะกลิ่นบางชนิดมีไขมันหรือน้ำมัน อาจจะขัดขวางการขึ้นฟูของไข่ได้ในขณะตี
ขั้นตอนการทำซอสส้ม
สำหรับการกวนหน้าซอสส้มนั้น การเลือกหม้อที่ใช้กวนมีส่วนสำคัญอย่างมาก ในน้ำส้มเข้มข้นมีกรด หม้อที่ใช้กวนหน้าซอสส้มควรเป็นหม้อสแตนเลส ไม่ควรใช้อลูมิเนียม เพราะกรดจากน้ำส้มจะไปกัดผิวอลูมิเนียม ทำให้ซอสส้มเปลี่ยนสีเป็นสีคล้ำได้ นอกจากเรื่องสีของซอสที่ไม่สวยแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย
ส่วนผสมในการทำซอสส้มก็หาได้ตามร้านอุปกรณ์เบเกอรี่หรือตามห้าง มีน้ำส้มเข้มข้น น้ำตาลทราย แป้งกวนไส้ตราดาว น้ำสะอาดและเนย แป้งกวนไส้ตราดาวจะทำให้หน้าซอสส้มใส ไม่ขุ่น หากใช้แป้งข้าวโพดแทนซอสจะข้นได้เช่นกัน แต่จะมีความขุ่นมากกว่า ในขั้นตอนการทำนั้นให้เททุกอย่างใส่หม้อ ยกเว้นเนย แล้วตั้งไฟปานกลาง ในตอนเริ่มกวนน้ำจะสีขุ่น ต้องใช้เวลาสักพักจนส่วนผสมร้อนและจะใสขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อซอสเริ่มใสและเดือด ให้ลดไฟลงอ่อน และกวนต่อจนถึงจุดที่ยกตะกร้อมือขึ้นมาแล้วมีรอยตะกร้อมือค้างอยู่ในหม้อ จึงปิดเตาและใส่เนย การใส่เนยจะช่วยให้หน้าซอสมีความเงางามจากนั้นจึงทิ้งเวลาไว้ให้ซอสอุ่นแล้วนำไปตกแต่งเค้กตามต้องการ
ขั้นตอนการตกแต่งเค้กส้ม
จะแบ่งตัวเค้กเป็นกี่ชั้นก็แล้วแต่ ประกอบทีละชั้น เนื้อเค้กสลับชั้นกับซอส แล้วราดซอสทับด้านบน นำไปแช่เย็นให้หน้าซอสเซ็ทตัวดี แล้วนำมาตัดแบ่งชิ้นตามต้องการ ถ้าจะให้เค้กเซ็ทตัวดีควรแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาข้ามคืน ซอสและเค้กจะเซ็ทตัวดี ตัดชิ้นมาได้สวยงาม หากต้องการตกแต่งด้วยผลไม้สด ให้ล้างผลไม้ให้สะอาดและซับน้ำให้แห้งก่อนวางผลไม้ลงบนหน้าเค้กหลังจากแช่เค้กข้ามคืนแล้วค่ะ
วิธีข้างต้นเป็นการตกแต่งเค้กส้มทั้งแบบใส่ในถ้วยฟอยด์ หรือทำเป็นเค้กปอนด์
การประกอบร่างเค้กส้มให้สวยงาม
แทบทุกคนที่เมื่อทำเค้กส้มเป็นแล้วก็อยากทำให้สวยเนี้ยบด้วย การทำเค้กส้มให้เรียบเนียนสวยมีเทคนิคอยู่พอสมควร ขอเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ เมื่อทำเค้กเสร็จแล้วไม่ควรประกอบร่างเลยทันที ควรจะรอให้เค้กเย็นสนิทก่อนแบ่งเป็นชั้นตามขวางของก้อนเค้ก แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด เมื่อเค้กเย็นสนิทแล้วให้นำพลาสติกแรปหุ้มเค้กทั้งก้อนแล้วแช่เย็นในช่องธรรมดาไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนนำมาแบ่งเป็นชั้นตามต้องการ เพราะเค้กจะเซ็ทตัวดีมาก ไม่บอบบาง หยิบจับสะดวก สำหรับซอสควรกวนแล้วพักไว้ให้เย็น ไม่ร้อน หรือจะอุ่นไปทางเย็นก็แล้วแต่ความถนัด แต่ห้ามร้อน
นำเค้กแบ่งเป็นชั้นตามต้องการ แล้ววางเค้กชั้นแรกลงบนกระดาษรองเค้ก นำทั้งหมดวางบนแท่นหมุนเค้ก ตักซอสราด ใช้ช้อนเกลี่ยให้ซอสเสมอกัน นำเค้กชั้นที่สองวางลงไป กดให้เค้กชั้นแรกและชั้นที่สองแนบกันมากขึ้น ทำด้วยความเบามือ ตักซอสราด ใช้ช้อนเกลี่ยให้ซอสเสมอกัน วางเค้กชั้นต่อไปแล้วกดให้เค้กแนบกันมากขึ้น บางคนอาจทำแค่สองชั้น บางคนอาจทำสามชั้นหรือสี่ชั้น แล้วแต่จะกำหนด ถ้าอยากให้ดูสวยงามแนะนำให้ตักซอสแต่ละชั้นเท่า ๆ กัน อาจใช้วิธีนับเป็นจำนวนช้อนหรือจะใช้ชั่งตามสะดวก
ก่อนราดชั้นบนสุดให้เอาแปรงปัดเศษเค้กที่ฐานออก แล้วเช็คซอสส้มที่ทำไว้ว่าข้นไปหรือไม่ ถ้าข้นให้เติมน้ำต้มสุกแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้น เทซอสจากตรงกลางด้านบน โดยยกหม้อให้สูงจากผิวเค้กประมาณ 3 นิ้ว ให้ซอสไหลเคลือบผิวหน้าและด้านข้างของเค้กให้เสมอกัน หากพบปัญหาว่าซอสไหลไม่เสมอให้เคลื่อนมือที่จับหม้อให้ซอสเคลือบไปด้านที่คลุมไม่เสมอ สำหรับด้านข้างเก็บรายละเอียดด้วยสปาตูลาร์ให้เรียบร้อยสวยงามก่อนนำไปแช่เย็นให้ซอสเซ็ทตัวดีค่ะ
การทำเค้กส้มในตำนานหากรู้หลักจะไม่ประสบกับการที่ก้นเค้กเป็นไตอีกต่อไป ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำเค้กส้มในตำนานกันนะคะ
แม่สลิ่ม
ครูจุ๋ม นฤมล ทองธรรมชาติ